อากาศแปรรปรวนดันไข่ไก่พุ่ง 30 สต. ด้านเกษตรกรร่วมมือตรึงราคาหน้าฟาร์ม 3.3 บาท ขณะที่กรมการค้าภายดึงร้านวัสดุก่อสร้าง-ร้านอุปโภคบริโภคเข้าร่วมโครงการหนูณิชย์...พาชิม
นางจินตนา ชัยยวรรณากร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้ขอความร่วมมือไปยังตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ให้ช่วยตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มประมาณฟองละ 3.30 บาท เนื่องจากในปัจจุบันราคาไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเพราะมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจากปัญหาอากาศแปรปรวนและมีโรคระบาดเกิดขึ้น อากาศส่วนการเคลื่อนไหวราคาไข่ไก่ปัจจุบัน ก็ยอมรับว่ามีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากผลิตออกมาน้อยเนื่องจากอากาศแปรปรวนและมีโรคระบาด โดยในเบื้องต้นเกษตรกรพร้อมให้ความร่วมมือในการตรึงราคาหน้าฟาร์มแล้ว
“อย่างไรก็ตามราคาที่ปรับขึ้นมานั้นอยากให้ผู้บริโภคเข้าใจเกษตรกรด้วย เพราะหากเกษตรกรมีต้นทุนหรือผลผลิตออกมาน้อยราคาก็อาจปรับขึ้นได้ เนื่องจากไข่ไก่เป็นสินค้าที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน และยอมรับว่าในบางช่วงการบริโภคก็ลดลงโดยเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งเกษตรกรต้องแบกรับภาระขาดทุนในขณะนั้น โดยการขอความร่วมมือให้จำหน่ายไข่ไก่หน้าฟาร์มที่ 3.30 บาทต่อฟองนั้นก็ถือว่าเป็นราคาที่เป็นธรรมแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาไข่ไก่เบอร์ 3 ในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 3.7-3.8 บาทต่อฟอง สูงกว่าเดือน ก.ค. ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.4-3.5 บาทต่อฟอง ประมาณฟองละ 30 สต. โดยราคาที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่แพงมาก ประกอบกับเป็นโรคระบาดทำให้ผลผลิตน้อยลง
“แม้ว่าในช่วงนี้จะมีผลผลิตออกมาน้อยกว่าปกติ แต่หากดูในภาพรวมของปี 57 พบว่า แม่ไก่ยืนกรงในไทยจะมีจำนวน 51.26 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6% มีผลผลิตไข่ไก่ 13,000 -14,000 ล้านฟอง และะคาดว่าผลผลิตไข่ไก่จะออกมามากที่สุดประมาณปลายเดือน ก.ย. – ต.ค. 57 หือกว่า 39 ล้านฟองต่อวัน ซึ่งตรงนี้อาจทำให้ราคาลดลงได้”
นางจินตนา กล่าวว่า ขณะนี้กรมมีแผนจะขยายเครือข่ายโครงการหนูณิชย์...พาชิม ออกไปให้เพิ่มขึ้นโดยกำหนดให้เป็นโครงการครอบครัวหนูณิชย์ ที่จะนำร้านค้าสินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง ให้เข้ามาร่วมจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดเพื่อให้เป็นทางเลือกให้ประชาชนสามารถหาซื้อสินค้าและลดค่าครองชีพได้ในที่สุด โดยอยู่ระหว่างการประเมินว่าภายใต้โครงการนี้ร้านค้าต้องดำเนินการอย่างไรและกรมจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านใดบ้าง
อ้างอิง : เดลินิวส์