นายเอนก บุญหนุน รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งถือเป็นสถาบัน ชั้นนำในการผลิตบุคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญสู่ภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของประเทศ เป็นที่ทราบกันดีว่า ในทุกๆปี งานเกษตรแฟร์ ถือเป็นเวทีใหญ่ที่ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้เปิดโอกาสให้นิสิตและนักศึกษาลงมือปฏิบัติงานจริง ทั้งยังส่งเสริมให้ คณาจารย์ นักวิจัย นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไป ได้เข้าใจถึงการค้นคว้าวิจัยตลอดจนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาเพื่อยกระดับภาคเกษตรกรรมและอาหารของไทยให้ก้าวหน้า ด้วยเล็งเห็นถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานดังเช่นทุกๆปี ในปีนี้ ซีพีเอฟ จึงได้ชูแนวคิด “นวัตกรรมสีเขียว” (Go Green Innovation) บนถนนสายนวัตกรรม เพื่อโชว์กระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมครบวงจร ตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ คือ ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายส่งเสริมอาชีพเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้ขยายโอกาส และเพิ่มรายได้ เพื่อเสริมสร้างความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกร ภายใต้แนวคิด “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่“
“งานเกษตรแฟร์ปีนี้ ซีพีเอฟยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ครัวโลกยั่งยืน ไฮไลท์ของบูธกิจกรรมซีพีเอฟอยู่ที่ การนำเทคโนโลยีถ่ายทอดสดแบบเรียลไทม์ (Real Time) มาโชว์กระบวนการผลิตอาหารตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ (Feed, Farm และ Food) โดยผู้ที่สนใจจะได้ชมกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากฟาร์มและโรงงานต่างๆ ของซีพีเอฟ เสมือนอยู่ในสถานที่จริง นอกจากนั้น ในส่วนนิทรรศการอื่นๆ ซีพีเอฟ ยังนำเสนอโครงการต่างๆที่มีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนายั่งยืน หรือ CSR อาทิ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่ร่วมมือกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทสนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์, โครงการเกษตรสมัยใหม่ “ข้าว ปลา ปาล์ม” เน้นการเกษตรแบบผสมผสานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อร่วมสร้างอาชีพให้เกษตรกรไทย และ โครงการปลูกป่าชายเลน เป็นต้น ” นายเอนก กล่าวเสริม
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของซีพีเอฟได้ ในส่วนของพื้นที่ “ศาลาแห่งนวัตกรรม” (Innovation Pavilion) ภายนอกอาคาร บริเวณ ถนนจักรพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ระหว่างวันที่ 22-30 มีนาคม 2557 ถือเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ระหว่าง คณาจารย์ นักวิจัย นิสิต บุคลากรของหน่วยงานต่างๆ นักธุรกิจ ตลอดจนประชาชนทั่วไป พร้อมสามารถนำไปต่อยอดทางการศึกษา การวิจัย การประยุกต์สร้างนวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยขับเคลื่อนครัวไทยสู่ครัวโลกด้วยความมั่นคงในระยะยาว./