"เดินตามหลัก OIE ภายใต้รูปแบบการบริหารจัดการระบบคอมพาร์ทเมนต์สำหรับอุตสาห กรรมอาหารแปรรูปครบวงจรอย่างเป็นรูปธรรม นำมาซึ่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพอาหารที่ปราศจากความเสี่ยง ด้วยคุณภาพ 100%" ...นี่เป็นการระบุของ นสพ.นรินทร์ ร่มลำดวน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักเทคนิคและวิชาการสัตว์บก ของทาง ซีพีเอฟ (CPF) ที่ทำธุรกิจด้านอาหาร ซึ่งเรื่องนี้กรณีนี้ก็น่าพิจารณา...
กับ "การทำธุรกิจอาหาร" ที่ "ชูความปลอดภัย" นั้น กรณีซีพีเอฟกับเนื้อไก่ นี่ก็เป็น "กรณีศึกษา"ที่ดี ยึดโยงกับการเป็น "จุดขาย" ได้ ซึ่งจากการที่เคยเกิดการระบาดของไข้หวัดนกในไทย บริษัท นี้ได้มีมาตรการเชิงรุกร่วมกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หาแนวทางป้องกันและจัดการ ปัจจัยเสี่ยง ผ่านการเลี้ยงไก่ใน "ฟาร์มระบบปิด (คอมพาร์ทเมนต์)" ตามแนวคิดขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ซึ่ง "สร้างความเชื่อมั่น" ได้อย่างดี นานาชาติให้การยอมรับในมาตรฐานกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพปลอดภัย ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่การผลิตได้
ความเชื่อมั่นนี้ เกิดขึ้นได้จากการที่ มีหลักปฏิบัติการจัดการที่ดีตั้งแต่ต้นทาง มีมาตรการควบคุม เฝ้าระวัง อย่างต่อเนื่อง (Surveillance) มีการใช้เทคโนโลยี เช่นโปรแกรมแจ้งเตือนโรคอย่างรวดเร็ว (Early Warning)โปรแกรมการตรวจต่าง ๆ ทางห้องปฏิบัติการอย่างเข้มงวด รวมถึงมีมาตรการตอบสนองอย่างทันท่วงที (Early response) สแตนด์บายไว้ เพื่อให้ปราศจากการปนเปื้อน อีกทั้งยังมีนโยบาย-มีแผนที่จะพัฒนามาตรการต่าง ๆ ให้ดีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วย
เหล่านี้นับเป็นแนว คิดที่สำคัญในการ "สร้าง วัตถุดิบอาหารที่มีคุณ ภาพและมีความปลอด ภัย" และในขณะเดียวกัน ก็จะ "สร้างความเชื่อมั่น-สร้างการยอมรับ" ซึ่งยึดโยงถึงการ "เป็นจุดขายที่ดี" ได้ด้วย
"ทั้งฟาร์มของบริษัทและฟาร์มเกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ ต่างก็ให้ความสำคัญกับโครงการปลอดโรคไข้หวัดนกของกรมปศุสัตว์ ที่เดินตามหลัก OIE ภายใต้การจัดการระบบคอม พาร์ทเมนต์"...นสพ.นรินทร์ ระบุ
ทั้งนี้ ในปัจจุบันทางซีพีเอฟ หรือบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) นั้นมีการดำเนินกิจการใน 14 ประเทศทั่วโลก มีการส่งออกผลิตภัณฑ์กว่า 40 ประเทศใน 5 ทวีปทั่วโลก ครอบคลุมประชากรมากกว่า 3,000 ล้านคน โดย กระบวนการผลิตที่ทันสมัยตลอดห่วงโซ่กับการผนึกความเข้มแข็งกับภาครัฐและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งความปลอดภัยของอาหาร ถือว่า "เป็นปัจจัยที่สำคัญในการช่วยผลักดันธุรกิจ" ให้ดำเนินถึงจุดนี้ได้
และกับหลักการต่าง ๆ กับมาตรการต่าง ๆ ดังที่ว่ามาข้างต้นนี้ นี่ก็นับว่า"เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจอาหาร"ทั่ว ๆ ไป ในทุก ๆ ระดับ ไม่ว่าจะใหญ่-กลาง-เล็ก ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องความเหมาะสมของราคา ในยุคปัจจุบันนี้ "อาหารที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย" เป็นปัจจัยสำคัญที่ "ผู้บริโภคให้น้ำหนักอย่างมาก"
กรณีนี้จึงนับว่าน่าพิจารณาไม่น้อย!!.
'สร้างความเชื่อมั่น สร้างการยอมรับ'
cr. หนังสือพิมพ์เดลินิวส์