นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ในฐานะเลขาสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พร้อมสมาชิกสมาพันธ์ ร่วมแถลงข่าว “ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัตถุดิบอาหารสัตว์” เพื่อชี้แจงสถาน การณ์อาหารสัตว์ในประเทศไทย ณ ห้องบอลรูม 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันก่อน
นายพรศิลป์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตอาหารสัตว์มีความจำเป็นต้องนำเข้าข้าวสาลีและกากข้าวโพดเอทานอลเพื่อทดแทนผลผลิตข้าวโพดขาดแคลนในประเทศซึ่งผลิตได้เพียง 4.5 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ 7.9 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ยังคงซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรตามนโยบายพยุงราคาของกระทรวงพาณิชย์ในราคาเฉลี่ยประมาณ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้การนำเข้าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบตกต่ำในประเทศ เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง หรือปลายข้าว ตามที่ก่อนหน้านี้สภาเกษตรกรแห่งชาติมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวโพดและกากข้าวโพดซึ่งส่งผล กระทบต่อราคาวัตถุดิบภายในประเทศและขอให้รัฐบาลพิจารณาระงับการนำเข้าวัตถุดิบดังกล่าวเพราะจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทั้งในเรื่องราคาและผลผลิต
“อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกันว่าวัตถุดิบในประเทศไม่เพียงพอต่อการใช้จริง ๆ จึงต้องนำเข้า ไม่ใช่อยากใช้ของต่างประเทศหรือละเลยเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ไม่ต้องการนำเข้าเกินกว่าความเป็นจริง เพราะจะเกิดต้นทุนในการเก็บรักษา ขอย้ำว่าทุกคนอยู่ในจุดเดียวกันจะเติบโตหรือล้มหายก็ไปด้วยกัน สมาคมอาหารสัตว์ ไม่มีสิทธิที่จะทำให้เกษตรกรเสียหาย มีแต่จะผลักดันทำให้เกษตรกรเก่งขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนลง ซึ่งที่สุดแล้วก็จะช่วยสร้างการเติบโตส่วนของอาหารสัตว์ที่เป็นปลายทางการผลิตนั่นเอง” นายพรศิลป์ กล่าว
Cr : นสพ.เดลินิวส์