14 กันยายน 2562 -- บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เป็น 1 ในสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices : DJSI) ประเภท Emerging Markets ประจำปี 2562 เป็นปีที่5 ติดต่อกัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและการได้รับการยอมรับในการเป็นบริษัทที่มีแนวปฎิบัติด้านความยั่งยืนชั้นนำและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรได้เป็น 1 ใน 17 บริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารใน DJSI ที่ได้รับการคัดเลือกอย่างต่อเนื่อง
แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามของบริษัทฯ ในการพัฒนาและปรับปรุงการปฏิบัติงาน ตลอดจนแนวคิดของพนักงาน การสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดเวลา ให้เห็นถึงความสำคัญของความยั่งยืนและเติบโตไปด้วยกันตามเป้าหมายของสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (United Nations Sustainable Development Goals : UN SDGs) โดยมีเป้าหมายสำคัญ 17 เป้าหมาย ตลอดจนสนับสนุนหลักการของข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact : UN Global Compact) ด้านสิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต
ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งสามารถลดการใช้พลาสติกระหว่างปี 2549 – 2561 ได้ทั้งสิ้น 27,000 ตัน ธุรกิจอาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์ และอาหาร เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนแล้ว 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมดขององค์กร การกำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 25% ในปี 2568 จากปีฐาน2558 ตลอดจนทำการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
“ซีพีเอฟ เชื่อมั่นว่าการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้นั้นนอกจากจะต้องสร้างรายได้แล้ว ยังต้องคำนึงถึงธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ การรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม และการตอบแทนสังคม เพื่อพัฒนาการดำเนินธุรกิจในเชิงรุกอย่างยั่งยืน” นายประสิทธิ์ กล่าวย้ำ
DJSI เป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Dow Jones Indices และ SAM โดยเชิญบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทั่วโลก
กว่า 3,500 แห่งใน 61 อุตสาหกรรม เข้าร่วมการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน ครอบคลุม 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง Global Compact Network ประเทศไทย เพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจโลกที่ยั่งยืนและเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ให้มีความสมดุล ที่ช่วยผลักดันเป้าหมายสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยังได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก FTSE4Good โดย FTSE Russell ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน./
ข้อมูลเพิ่มเติมในรายงานความยั่งยืน ซีพีเอฟ https://www.cpfworldwide.com/th/sustainability/report