29 เม.ย. 2565
ซีพีเอฟยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ เพิ่มความปลอดภัยอาหาร ด้วยระบบ Smart Farm
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าขับเคลื่อนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำ ระบบฟาร์มอัจฉริยะ และเทคโนโลยีบล็อกเชน มาผนวกกับกิจการเลี้ยงสัตว์ ช่วยยกระดับการบริหารจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์ระดับสากล ลดการพึ่งพายาปฏิชีวนะ และเพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภคในมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร
น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานฟาร์มและข้อกำหนดลูกค้า ในฐานะประธานความมุ่งมั่นด้านสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตระหนักดีว่าหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร จึงได้ประกาศนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรับผิดชอบ เพื่อให้สัตว์ได้รับการเลี้ยงดูอย่างมีจริยธรรม สัตว์มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี สอดคล้องกับข้อกำหนดและกฎหมายระดับสากล ปัจจุบัน ซีพีเอฟ ยังได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการเลี้ยงสัตว์สู่ระบบ “ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm)” โดยประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Internet of Things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง รวมทั้งช่วยให้การจัดการสภาพแวดล้อมในฟาร์มเหมาะกับการเป็นอยู่ของสัตว์ ช่วยสัตว์อยู่สุขสบาย ได้กินอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ หนุนการเติบโตของสัตว์ โดยมีการแสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูลในฟาร์มแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถดูแลสัตว์ และบริหารงานผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา
“ระบบฟาร์มอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและน้ำ ลดการสูญเสียอาหารสัตว์ ประหยัดต้นทุนการผลิต และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางชีวภาพ ปกป้องฟาร์มให้ปลอดภัยจากโรคระบาดสัตว์และคน ช่วยลดความจำเป็นของคนเข้าไปในโรงเรือน ลดความเสี่ยงการติดต่อโรคจากคนสู่สัตว์ ซึ่งนำไปสู่การลดการใช้ยาปฏิชีวนะ” น.สพ.พยุงศักดิ์กล่าว
ซีพีเอฟ มุ่งวิจัยและพัฒนานวัตกรรมระบบสมาร์ทฟาร์มเพื่อช่วยให้การดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง อาทิ การนำกล้องวงจรปิดและเทคโนโลยี IoT มาช่วยควบคุมการทำงานทางไกลในการติดตามสุขภาพสัตว์ สามารถแสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้ตลอดเวลา (Real-time) ตั้งแต่ การวิเคราะห์สูตรอาหาร และปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของสัตว์ในแต่ละช่วงวัย อีกทั้งยังช่วยปรับสภาวะสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือนให้เหมาะสมตามสรีระวิทยา ซึ่งจะช่วยเสริมการเติบโตของสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้ง มีการแจ้งเตือนสถานะผิดปกติได้ทันท่วงที อาทิ การนำระบบ sound talk มาตรวจจับฟังเสียงไอของสุกร เพื่อติดตามสุขภาพของสัตว์ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีประมวลผลด้วยภาพ (image processing) ช่วยลดการสุ่มตัวอย่างกุ้งเพื่อติดตามการเจริญเติบโต เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อใช้วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่เก็บรวบรวมแบบออนไลน์จำนวนมากมาจากแต่ละฟาร์ม เพื่อช่วยยกระดับและสร้างความเชื่อมั่นในข้อมูลของการบริหารจัดการฟาร์มและการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์ รวมถึงการตรวจสอบย้อนกลับเป็นไปอย่างโปร่งใส สนับสนุนให้นำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ให้เกิดสูงสุดในการยกระดับคุณภาพและสุขภาพของสัตว์
น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานฟาร์มและข้อกำหนดลูกค้า ในฐานะประธานความมุ่งมั่นด้านสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตระหนักดีว่าหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร จึงได้ประกาศนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรับผิดชอบ เพื่อให้สัตว์ได้รับการเลี้ยงดูอย่างมีจริยธรรม สัตว์มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี สอดคล้องกับข้อกำหนดและกฎหมายระดับสากล ปัจจุบัน ซีพีเอฟ ยังได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการเลี้ยงสัตว์สู่ระบบ “ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm)” โดยประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Internet of Things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง รวมทั้งช่วยให้การจัดการสภาพแวดล้อมในฟาร์มเหมาะกับการเป็นอยู่ของสัตว์ ช่วยสัตว์อยู่สุขสบาย ได้กินอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ หนุนการเติบโตของสัตว์ โดยมีการแสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูลในฟาร์มแบบเรียลไทม์ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถดูแลสัตว์ และบริหารงานผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา
“ระบบฟาร์มอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและน้ำ ลดการสูญเสียอาหารสัตว์ ประหยัดต้นทุนการผลิต และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางชีวภาพ ปกป้องฟาร์มให้ปลอดภัยจากโรคระบาดสัตว์และคน ช่วยลดความจำเป็นของคนเข้าไปในโรงเรือน ลดความเสี่ยงการติดต่อโรคจากคนสู่สัตว์ ซึ่งนำไปสู่การลดการใช้ยาปฏิชีวนะ” น.สพ.พยุงศักดิ์กล่าว
ซีพีเอฟ มุ่งวิจัยและพัฒนานวัตกรรมระบบสมาร์ทฟาร์มเพื่อช่วยให้การดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง อาทิ การนำกล้องวงจรปิดและเทคโนโลยี IoT มาช่วยควบคุมการทำงานทางไกลในการติดตามสุขภาพสัตว์ สามารถแสดงผลและวิเคราะห์ข้อมูลได้ตลอดเวลา (Real-time) ตั้งแต่ การวิเคราะห์สูตรอาหาร และปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของสัตว์ในแต่ละช่วงวัย อีกทั้งยังช่วยปรับสภาวะสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือนให้เหมาะสมตามสรีระวิทยา ซึ่งจะช่วยเสริมการเติบโตของสัตว์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้ง มีการแจ้งเตือนสถานะผิดปกติได้ทันท่วงที อาทิ การนำระบบ sound talk มาตรวจจับฟังเสียงไอของสุกร เพื่อติดตามสุขภาพของสัตว์ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีประมวลผลด้วยภาพ (image processing) ช่วยลดการสุ่มตัวอย่างกุ้งเพื่อติดตามการเจริญเติบโต เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อใช้วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่เก็บรวบรวมแบบออนไลน์จำนวนมากมาจากแต่ละฟาร์ม เพื่อช่วยยกระดับและสร้างความเชื่อมั่นในข้อมูลของการบริหารจัดการฟาร์มและการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์ รวมถึงการตรวจสอบย้อนกลับเป็นไปอย่างโปร่งใส สนับสนุนให้นำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ให้เกิดสูงสุดในการยกระดับคุณภาพและสุขภาพของสัตว์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาช่วยยกระดับความปลอดภัยในฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แบบเกษตรกรพันธสัญญา เช่น ระบบให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ ระบบการสังเกตการณ์ทางไกล เป็นต้น รวมทั้งมีการตรวจประเมินฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดของบริษัทฯ และของเกษตรกรที่ร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพฯ ในทุกประเทศเป็นประจำทุกปี และได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วโลกมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากเนื้อสัตว์ของซีพีเอฟมีคุณภาพ ถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และมาจากกระบวนการที่ยึดหลักสวัสดิภาพสัตว์
Tag: #innovation #digital
กิจกรรมอื่น ๆ
08 ต.ค. 2567
เจ้าแรกของไทย! 'ห้าดาว' ใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกได้รับรองมาตรฐาน FSC สร้างต้นแบบธุรกิจแฟรนไชส์ยั่งยืน
Tag:
#ForestProtect