บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าขับเคลื่อน “ฟาร์มอัจฉริยะ” (Smart Farm) นำนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้ง ระบบดิจิทัล บล็อกเชน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเลี้ยงสัตว์ ส่งเสริมสุขภาพของสัตว์ให้มีสุขภาวะที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี ช่วยให้สัตว์มีภูมิต้านทานจากภายใน ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา ได้รับการรับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ในระดับสากล ตอบโจทย์ความต้องการผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่มีกระบวนการผลิตที่รับผิดชอบต่อสวัสดิภาพสัตว์
น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานฟาร์มและข้อกำหนดลูกค้า ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนนำระบบ “ฟาร์มอัจฉริยะ” (Smart Farm) มาผนวกกับการจัดการฟาร์มและการดูแลสุขภาพสัตว์ในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายสวัสดิภาพสัตว์และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยการประยุกต์ใช้ระบบการควบคุมอัตโนมัติ (Automation) ระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ การติดตั้งเซนเซอร์ Internet of Things (IoT) เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เป็นต้น ตลอดจนมีการวิเคราะห์และแสดงผลแบบเรียลไทม์ที่ผู้ปฏิบัติงานและสัตวแพทย์สามารถควบคุมทางไกลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ และติดตามดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ในโรงเรือนได้ทุกที่ทุกเวลา ส่งผลให้การจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์เป็นระบบ รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยได้รับรองมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล ตั้งแต่ มาตรฐาน QS Standard ของเยอรมนี และมาตรฐาน LR Farm F1rst ของสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ไก่เบญจา (Benja Chicken) และหมูชีวา (Cheeva Pork) ของซีพีเอฟ ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู จาก NSF ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระดับนานาชาติ ช่วยสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์โปรตีนจากเนื้อสัตว์มีคุณภาพ ถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และมาจากกระบวนการที่ยึดหลักสวัสดิภาพสัตว์
“จากความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการนำระบบฟาร์มอัจฉริยะมาใช้ เพื่อยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างจริงจัง รวมทั้งเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของสัตว์ในฟาร์มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2565 ซีพีเอฟเป็นบริษัทไทยรายเดียวได้รับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ระดับ Tier 3 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ในรายงานเกณฑ์มาตรฐานทางธุรกิจตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (The Business Benchmark on Farm Animal Welfare Report : BBFAW) จากการจัดอันดับ บริษัทผลิตอาหารชั้นนำ 150 องค์กรทั่วโลก” น.สพ.พยุงศักดิ์ กล่าว
ที่สำคัญ ระบบฟาร์มอัจฉริยะนับเป็นหัวใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงควบคู่กับการยกระดับความปลอดภัยภายในฟาร์ม ช่วยให้บริษัทฯ สามารถดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำสูง สัตว์มีสุขภาวะที่ดี มีความเป็นอยู่สบาย ปลอดภัยจากโรคระบาด มีภูมิต้านทานที่ดีจากภายใน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ ระบบฟาร์มอัจฉริยะยัง สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหารอย่างโปร่งใส จนถึงการควบคุมเรื่องการใช้ยาปฏิชีวนะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อในระดับสูงต่อผลิตภัณฑ์อาหาร
บริษัทฯ ยังได้จัดทำเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อให้บริษัทฯ สามารถวิเคราะห์และประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตและสุขภาวะที่ดีของสัตว์ ทั้งพฤติกรรมและความต้องการของสัตว์ สภาพอากาศที่เหมาะสม ปริมาณอาหารและน้ำตามความต้องการของสัตว์ในแต่ละช่วงวัย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ นำไปพัฒนาและปรับปรุงแนวทางการปฏิบัติที่ดีต่อความเป็นอยู่และสุขภาพสัตว์ ตลอดจนการควบคุมและป้องกันโรคระบาด และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างแม่นยำ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างโปร่งใส่ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในข้อมูลของกระบวนการเลี้ยงสัตว์ และการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยยกระดับความปลอดภัยในฟาร์มของเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แบบเกษตรกรพันธสัญญา เช่น ระบบให้อาหารและน้ำอัตโนมัติ ระบบการสังเกตการณ์ทางไกล เป็นต้น รวมทั้งมีการตรวจประเมินฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั้งหมดของบริษัทฯ และของเกษตรกรที่ร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพฯ เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ทุกคนมั่นใจห่วงโซ่ผลิตอาหารของซีพีเอฟยึดหลักสวัสดิภาพสัตว์./
Tag:
#ForestProtect