นิตยสารฟอร์สบ
เวียดนาม ฉบับเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ ขึ้นปก
คุณมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น (ซีพี
เวียดนาม) พร้อมนำเสนอรายงานพิเศษ เรื่อง ซีพี
เวียดนาม ใช้นวัตกรรมเพิ่มขีดความสามารถภาคเกษตรอุตสาหกรรม
ขยายเครือข่ายการผลิตอาหารทั่วประเทศเวียดนาม บรรลุวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก”
“ซีพี เวียดนาม” เป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (เครือซีพี) ที่เข้าไปลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2531 ตามคำเชิญจากรัฐบาลเวียดนามหลังจากที่ยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหารของเครือซีพี ในประเทศไทย เพื่อศึกษากระบวนการผลิตอาหารสำหรับส่งออก ซึ่งในขณะนั้น เวีดยนามยังเลี้ยงสุกรและไก่แบบหลังบ้าน และการดำเนินธุรกิจของซีพี เวียดนามตลอด 3 ทศวรรษเป็นต้นมา ได้มีส่วนช่วยพัฒนาและยกระดับวงการปศุสัตว์ และสัตว์น้ำของเวียดนามสู่ความทันสมัย ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหารจากเนื้อสัตว์ มีส่วนร่วมสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับในประเทศไทย ซีพี เวียดนาม ดำเนินธุรกิจธุรกิจด้านเกษตรอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ตั้งแต่ ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ (Feed) - การเพาะพันธุ์และเลี้ยงสัตว์ (Farm) ไปจนถึงการแปรรูปเนื้อสัตว์และอาหารสำเร็จรูป (Food) และยังมีธุรกิจค้าปลีก ได้แก่ ร้าน C.P Shop ร้าน C.P Fresh Mart ร้าน C.P Pork Shop เปิดร้านฟาสต์ฟู้ดภายใต้แบรนด์ Five Star และ Chickita และร่วมทุนบริษัท AHM Lifestyles-Creative Hospitality Co., Ltd. เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารในเวียดนาม รวมทั้ง การผลิตอาหารแปรรูปส่งไปจำหน่ายตลาดทั่วโลก
เมื่อปี 2563 ซีพี เวียดนามผลิตสุกรมากกว่า 5 ล้านตัว ไข่ไก่มากกว่า 200 ล้านฟอง และไก่เนื้อมากกว่า 8 หมื่นตัน และจากการขยายการลงทุนและราคาสุกรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ในปี 2563 ที่ผ่านมาเติบโตร้อยละ 26 เป็น "ดาวเด่น" มีอัตราการเติบโตของรายได้สูงสุดของกิจการต่างประเทศของซีพีเอฟ
เมื่อเร็วๆ นี้ ซีพี เวียดนาม ได้เปิดโรงงานผลิตไก่เนื้อครบวงจร ที่ทันสมัยที่สุดในโลกในจังหวัดบิ่ญเฟื้อก (Binh Phuoc) เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ดำเนินการผลิตไก่เนื้อเพื่อส่งออกภายใต้แบรนด์ Made in Vietnam ไปยังตลาดฮ่องกง ญี่ปุ่น และภูมิภาคยุโรป นับเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของเวียดนาม ใช้ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีทันสมัย อย่าง AI (ปัญญาประดิษฐ์) และ Big Data ในกระบวนการผลิต โรงงานแปรรูปไก่เนื้อครบวงจร จังหวัดบิ่ญเฟื้อก นับเป็นก้าวที่สำคัญของ ซีพี เวียดนาม ในการบรรลุวิสัยทัศน์ "ครัวของโลก" ผลิตและส่งมอบอาหารคุณภาพสูงให้ผู้บริโภคเวียดนาม และทั่วโลก
ตลอดระยะเวลา 30 ปีในการดำเนินธุรกิจ ซีพี เวียดนาม ได้ร่วมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรายย่อยมากกว่า 3,000 ครอบครัวทั่วประเทศ ปรับเปลี่ยนการเลี้ยงสัตว์มาเป็นฟาร์มเลี้ยงในโรงเรือนแบบปิด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐานเดียวกันกับบริษัท ซึ่งช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรเวียดนามมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างมั่นคง
ไมดินห์ โฝ่น (Mai Dinh Phon) อายุ 78 ปี ทำฟาร์มเลี้ยงไก่กับซีพี เวียดนาม ตั้งแต่ปี 2538 เล่าว่า บริษัทให้การสนับสนุน ในเรื่องพันธุ์ไก่ อาหาร และปรับรูปแบบการเลี้ยงให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เริ่มจากไก่ 10,000 ตัว ในวันนี้เป็นฟาร์มไก่เนื้อกว่า 2 แสนตัว สร้างรายได้ 5 พันล้านดอง นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรอีกหลายครอบครัวที่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นจากการร่วมเป็นพันธมิตรทางการค้า กับ Pham Van Canh จากอำเภอ Cam Xuyen จังหวัด Ha Tinh มีรายได้เกือบ 3 หมื่นล้านดองต่อปีจากการเลี้ยงสุกรหลายพันตัว กับซีพี เวียดนาม
ในปี 2536 คุณมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี นักบัญชีจากประเทศไทยได้รับมอบหมายให้ไปทำหน้าที่เป็น ผู้จัดการฝ่ายการเงินให้กับโรงงานของซีพี ที่ประเทศเวียดนาม ตอนแรก คุณมนตรีรู้สึกลังเลใจ เพราะไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ข้อห้ามทางการค้าของประเทศเวียดนามมากนัก เมื่อ 28 ปีผ่านไป จากหนุ่มนักบัญชีได้ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารสูงสุดของซีพี เวียดนาม ดูแลพนักงานชาวเวียดนามกว่า 30,000 คน และสามารถพูดคุยกับชาวเวียดนามได้อย่างคล่องแคล่ว
แม้ว่าจะเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัท คุณมนตรียังอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยสไตล์การบริหารองค์กรที่ใส่ความจริงใจ ให้ความรัก ใส่ใจกับทุกคนรอบข้าง จึงชนะใจพนักงานชาวเวียดนามทุกคน เมื่อมีพนักงานทักทาย คุณมนตรีจะตอบกลับเป็นภาษาเวียดนามอย่างอบอุ่น และร่วมกิจกรรมอาสาสมัครต่างๆ ของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ การบริจาคโลหิตจนได้รับประกาศนียบัตรจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม
คุณมนตรีเผยว่า “เคล็ดลับของความสำเร็จสำหรับบริษัทต่างชาติ คือ ความเข้าใจผู้คนและวัฒนธรรมของเวียดนาม เอาใจเขามาใส่ใจเรา เห็นถึงเป้าหมายเดียวกันในสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้ประชาชนและสังคม” และเสริมว่า “สิ่งหนึ่งที่บริษัทภาคภูมิใจคือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของเวียดนาม และส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไปทั่วโลก เราให้ใจให้กับเกษตรกรและใส่ใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์และสัตว์น้ำของเวียดนาม ยึดมั่นในหลัก 3 ประโยชน์ ของ ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียวนนท์ ที่ย้ำอยู่เสมอว่า ซีพีไปลงทุนธุรกิจในประเทศใด ให้คิดถึงประโยชน์ของประเทศนั้นก่อเป็นอันดับแรก ต่อมาเป็นประชาชน จึงจะมาที่บริษัทเป็นลำดับสุดท้าย”./