การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ภายใต้แนวทางการปฏิบัติตัวตามมาตรฐานสุขอนามัยและการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทำให้ประเทศไทยสามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในประเด็นที่ยังคำถามเกี่ยวกับการติดเชื้่อระหว่างคนสู่สัตว์ หรือสัตว์ที่ติดโรคสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้อย่างไร หรือไม่ ขออธิบายดังนี้
ปกติเชื้อโคโรน่าไวรัสสามารถพบได้ในสัตว์ทุกชนิด ส่วนเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ที่เกิดโรคในคน จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ในจีน พบว่าเชื้อนี้ติดต่อได้ในสัตว์ตระกูล FELIDAE เช่น แมวและเสือ เป็นต้น สำหรับสัตว์เศรษฐกิจ เช่น หมู ไก่และเป็ด งานวิจัยพบว่าจะไม่สามารถติดโรคโควิด 19 ได้อย่างแน่นอน ประชาชนจึงสบายใจได้ในการบริโภคเนื้อสัตว์เหล่านี้ แต่ต้องปรุงอาหารให้สุก สะอาด และไม่แนะนำให้ทานอาหารดิบๆ สุกๆ เด็ดขาด การทานอาหารที่สุก ความร้อนสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกชนิดรวมทั้งโควิด19
สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร ควรมีมาตรการป้องกันโรคที่เข้มงวดและแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยส่วนบุคคลที่เคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรการดูแลตัวเองและการควบคุมอนามัยส่วนบุคคล ความสะอาด การล้างมือ การใส่
หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝอยละอองที่เกิดจาการไอหรือจามปนเปื้อนไปกับอาหาร และหากผู้ปฏิบัติงานมีอาการป่วยและมีไข้ ควรหยุดการปฏิบัติงานในทันที
ในโรงงานชำแหละและแปรรูปสัตว์ กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อในไลน์การผลิต ต้องหาผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เพื่อกักตัวและเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน และให้หยุดสายการผลิตบริเวณที่ผู้ป่วยติดเชื้อปฏิบัติงานเป็นเวลา 1 วัน เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ โดยไม่จำเป็นต้องปิดสายการผลิตทั้งโรงงาน และการฆ่าเชื้อจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีสารประกอบคลอรีนหรือแอลกอฮอลล์ ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การฆ่าเชื้อจะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคนี้แพร่กระจายไปสู่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
ในสายการผลิตควรเตรียมแผนปฏิบัติการไว้ล่วงหน้ากรณีเกิดการระบาดของโรคโควิด 19 ผู้ปฏิบัติงานในแต่ละกะการทำงาน ควรแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน เพราะหลังปิดไลน์การผลิตทำความสะอาดและฆ่าเชื้อแล้วต้องมีทีมงานกลุ่มใหม่เข้าไปทำงานแทนทันทีเพราะไม่สามารถปิดโรงงานได้ 14 วัน การเตรียมการต่างๆ ถือว่ามีความจำเป็นมาก ต้องมีการวางแผนและซ้อมแผนเป็นอย่างดี หากไม่วางแผนทีดีเมื่อเกิดปัญหาขึ้นจะเป็นอุปสรรคอย่างมากหากไม่สามารถดำเนินการผลิตต่อไปได้
สิ่งที่ต้องระวัง คือ การระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงงานเพราะเป็นสถานที่รวมของคนจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนเตรียมการที่ดี เน้นการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) หรือ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Physical Distancing) การเข้ากะ-ออกกะ ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสและการรวมพลของคนหมู่มาก เพราะถ้าเกิดโรคกับคนใดคนหนึ่ง คนที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อทุกคนจะต้องถูกกักตัวเป็นกลุ่มใหญ่จนไม่เหลือคนทำงาน
อยากฝากคนไทยเรื่องระเบียบวินัยและคำแนะนำต่างๆ ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยทำตามคำแนะนำได้ดี เรื่องการดูแลสุขอนามัย ทานอาหารปรุงสุก การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือและอื่นๆ ตลอดจนการเว้นระยะทางสังคม (Social Distancing) และการเว้นระยะระหว่างบุคคล (physical distancing) ถ้าคนไทยทำได้มากกว่า 90% คงความมีวินัยเคร่งครัดและเชื่อคำแนะนำของทางราชการ เชื่อว่าโรคโควิด 19 จะมีอุบัติการ การสูญเสียทางสุขภาพร่างกายและเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศทางตะวันตกแน่นอน.
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ
หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แหล่งข่าว : ประชาชาติธุรกิจ