เรื่องราวในโลกโซเชียลนั้น มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องลวง ซึ่งมีผลต่อความเชื่อและความรู้สึกของผู้รับข้อมูลพอสมควร มีหลายเรื่องที่ทำให้คนสับสน เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีคนโพสต์คลิปว่า “ห้ามกินไก่ 3 ส่วนนี้ เพราะอันตราย” นั่นก็คือ

1.ส่วนคอ โดยอ้างว่ามีต่อมน้ำเหลืองและมีเส้นเลือดมากเป็นที่รวมของแบคทีเรียและไวรัส 

2.ส่วนปีก อ้างว่ามีการฉีดฮอร์โมนถึง 4 ครั้งจนทำให้ไก่มี 3 ปีก

3.ส่วนหัว อ้างว่าสมองเป็นที่สะสมของโลหะหนัก

วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องนี้โดยใช้ข้อมูลทางวิชาการมาพิจารณากันครับ

คำตอบสั้นๆ แบบเด็ดขาดเลย นั่นก็คือ “ไม่จริง” ครับ โดยขออธิบายทีละประเด็นเลย ดังนี้

1.ที่ว่าส่วนคอมีเส้นเลือดและต่อมน้ำเหลืองอยู่ทำให้เป็นที่สะสมของเชื้อไวรัสและแบคทีเรียนั้น ในความเป็นจริงแล้วเส้นเลือดมีทั่วร่างกาย หากมีเชื้อโรคอยู่ในเส้นเลือดจริง เชื้อเหล่านั้นจะทำอันตรายไก่ ทำให้ไก่ป่วยและตาย ก่อนที่จะโตจนสามารถส่งมาแปรรูปเป็นอาหารแล้ว

2.ที่ว่ามีการใช้ฮอร์โมนและสารเร่งโต จนทำให้ไก่มีถึง 3 ปีกนั้น เรียนว่า ไก่ 3 ปีกนั้น คือ “ไก่พิการ” เป็นความผิดปกติตั้งแต่ตอนเจริญเติบโตที่พบได้ต่ำมาก (ความรู้สึกประมาณว่า พบจิ้งจกสองหาง หมู 2 หัว แมว 5 ขา) ส่วนที่ว่ามีการให้ฮอร์โมน 4 ครั้ง ก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการใช้ฮอร์โมนในไก่นั้น เป็นสิ่งที่ “ผิดกฎหมาย” ทั่วโลก โดยในประเทศไทยมีกฎหมายห้ามการใช้ฮอร์โมนในไก่และผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารมากว่า 30 ปีแล้วครับ (ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529)

3.ส่วนที่บอกว่าหัวไก่มีการสะสมของสารเคมีจากอาหารสัตว์นั้น ก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากอาหารสัตว์นั้น จะต้องมีคุณภาพที่เหมาะสมกับสายพันธุ์และระยะอายุของไก่จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด การใส่ยาหรือสารเคมีก็จะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตอีกด้วย

จึงอยากเรียนย้ำว่าอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อของไทยในปัจจุบันนั้นอยู่ภายใต้มาตรฐานที่กำหนดโดยกรมปศุสัตว์และประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะทางยุโรปและญี่ปุ่น และที่สำคัญ การเลี้ยงไก่นั้น “ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตเลย” เนื่องจากเหตุผลต่างๆ ดังนี้

1.มีการพัฒนาสายพันธุ์ ให้มีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อสูง ทำให้ไก่โตเร็วตามเกณฑ์

2.มีระบบการจัดการฟาร์มที่ดี ใช้การเลี้ยงเข้าและออกเป็นชุดๆ ทำให้สามารถควบคุมปริมาณการใช้อุปกรณ์สิ้นเปลืองได้ จึงเป็นการควบคุมต้นทุน

3.มีโรงเรือนที่เสริมให้ไก่มีสุขสภาวะที่ดี มีการควบคุมอุณหภูมิ ปรับระยะเวลาการให้แสง และการควบคุมสภาพแวดล้อม เพื่อกระตุ้นให้ไก่ออกกำลังและกินอาหารได้ตลอดเวลา ไก่ก็จะโตเร็ว

4.มีการพัฒนาด้านคุณภาพของอาหาร ให้เหมาะกับอัตราการแลกเนื้อ เพื่อเน้นให้มีคุณค่าทางโภชนาการและสารอาหารที่ครบถ้วน เหมาะสมกับไก่ในแต่ละช่วงอายุ ช่วยให้ไก่เติบโตเร็ว

5.การจัดการฟาร์มในปัจจุบันมีระบบการป้องกันโรคที่ดี มีการทำวัคซีนและการถ่ายพยาธิ เพื่อลดโอกาสการป่วยของไก่ และใช้ยาตามความเหมาะสมตามหลักสวัสดิภาพสัตว์

6.ระยะเวลาในการเลี้ยงไก่เชิงอุตสาหกรรมสั้นใช้เวลาในการเลี้ยงสั้นกว่าสมัยก่อนมากเพียงแค่ประมาณ 30-40 วันเท่านั้น จึงไม่จำเป็นไม่ต้องพึ่งฮอร์โมนให้เปลืองเงินและเกิดอันตรายเลยครับ

ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า การเลี้ยงไก่เชิงอุตสาหกรรมในปัจจุบันค่อนข้างปลอดภัยจากฮอร์โมนหรือสิ่งอันตรายอย่างที่หลายๆ คนกลัวตามในคลิปที่แชร์ๆ กันครับ

นอกจากนี้ การเลือกซื้อเนื้อไก่ที่สด สะอาด ควรสังเกตเนื้อไก่ยังมีสีชมพูอ่อนๆ หนังไก่บางใส ไม่เหี่ยวย่น หรือฉีกขาดหลุดลุ่ย ลองกดดูเนื้อต้องแน่น  ไม่มีกลิ่น หรือเมื่อลองจับไม่มีเมือก สีไม่เขียวคล้ำ ที่สำคัญควรเลือกจากแหล่งจำหน่ายที่มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้ หรือได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ เพื่อให้ได้บริโภคไก่ที่สะอาด และปลอดภัย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร

คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ