ซีพีเอฟ ชูโมเดลโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จังหวัดนครนายก นำเปลือกไข่บดจากกระบวนการผลิต แบ่งปันให้เกษตรกรในพื้นที่ทำปุ๋ย ช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และยังสอดรับกับเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร ลดขยะและขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ใน ปี 2030 และเดินตามเป้าหมาย SDGs
นางวรรณทนีย์ ชำนาญเศรษฐการณ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรตลอดกระบวนการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยโมเดลการทำงานของโรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จังหวัดนครนายก มีการบริหารจัดการเปลือกไข่จากกระบวนการผลิต เฉลี่ยปีละ 1,000 ตัน โดยตั้งแต่ปี 2557 ได้ดำเนินโครงการ "ปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บด" นำเปลือกไข่บด กระจายให้เกษรกรในพื้นที่นำไปหมักทำปุ๋ย หรือนำไปผสมเตรียมดินเพื่อใช้ปลูกต้นไม้ โรยที่โคนต้นไม้
นอกจากนี้ ยังร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินนครนายก อบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อให้คนในชุมชนและเกษตรกร นำปุ๋ยอินทรีย์จากเปลือกไข่บดไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สามารถช่วยลดต้นทุนทางการเกษตร ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี สร้างความมั่นคงทางอาหารในครัวเรือน และเป็นการส่งเสริมชุมชนบริโภคผลผลิตที่ปลอดภัย เป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ตัดวงจรการนำเปลือกไข่ไปทิ้งสู่หลุมฝังกลบ (Waste to Landfill) สร้างผลกระทบเชิงบวกสู่ชุมชนและสังคมโดยรอบ
โครงการดังกล่าว สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals :SDGs) อาทิ ขจัดความอดอยากและสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ส่งเสริมความยั่งยืนในระบบนิเวศบนบก และการสร้างความร่วมมือกับเครือข่าย เป็นต้น
ซีพีเอฟ ได้นำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินตามเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือเครือซีพี ลดขยะและขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบ ให้เป็นศูนย์ใน ปี 2030 (Zero Food Waste to Land Fill) โดยตั้งคณะทำงาน "สร้างคุณค่า ไร้ขยะ... Waste to Value"ขึ้น เพื่อบริหารจัดการด้านลดการสูญเสียอาหาร (Food Loss) , ขยะอาหาร (Food Waste) และบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging) ขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้กรอบแนวปฏิบัติสากลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) : food loss and waste protocol (FLW)