ตลอดระยะเวลาของการต่อสู้รับมือไวรัสร้ายที่ชื่อโควิด-19 ที่คนไทยทั้งประเทศร่วมมือกันฟันฝ่า มาจนถึงทุกวันนี้ที่ดูเหมือนสถานการณ์จะคลี่คลายลง...ทุกภาคส่วนล้วนมีบทบาทสำคัญทั้งที่เป็นกองหน้าและกองหนุน...หนึ่งในบรรดากองหนุนที่สำคัญไม่น้อยก็คือ ห้างร้านภาคธุรกิจ ที่ช่วยชาติทำหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมการบริหารจัดการสถานการณ์นี้อย่างเต็มกำลังอย่างต่อเนื่อง
อย่างเช่น CPF หรือ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหารที่ ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ได้ทุ่มเทแนวคิดช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมผู้คนหลากหลายกลุ่มที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน สังคม และประเทศชาติตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการระบาดในไทย ประสิทธิ์ เล่าว่า “ซีพีเอฟ” เป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัย จึงต้องการแบ่งเบาภาระของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนต้องการเป็นส่วนร่วมส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนไทยและประเทศไทยให้รอดพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน ด้วยการดูแลแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เป็นทัพหน้าในการคลี่คลายปัญหานี้ผ่านโครงการที่ช่วยสนับสนุนมาตรการด้านสาธารณสุขหลายโครงการ เริ่มตั้งแต่โครงการแรกที่ส่งอาหารให้ประชาชนที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จำนวนถึง 20,000 คนเพื่อจูงใจให้ทุกคนกักตัวเองช่วยชาติลดโอกาสการแพร่เชื้อสู่สังคมรวมทั้งจัดหาอาหารของทีมแพทย์ให้กับโรงพยาบาลของรัฐอีก 200 แห่ง เป็นกำลังสำคัญให้เหล่าทัพหน้า ได้มีอาหารรับประทานอย่างเต็มอิ่ม และมีเวลาดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ แนวคิดนี้ยังต่อยอดไปถึงครอบครัวคุณหมอคุณพยาบาลอีก 20,000 ครอบครัวด้วย
“CPF ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักคิด Good Corporate Citizen คือเป็นบริษัทที่ร่วมสร้าง และดูแลสังคม วันนี้ทั่วโลกอยู่ในภาวะวิกฤติ เราจึงต้องช่วยเหลือทุกภาคส่วน ให้ก้าวผ่านวิกฤตไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน” ประสิทธิ์ กล่าว ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เล่าต่อว่าขณะเดียวกัน อสม. เป็นมดงานที่มีส่วนสำคัญยิ่งในการเข้าถึงประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ แต่จำนวน อสม.ที่มีมากเป็นล้านคน การจะใช้วิธีส่งอาหารไปตามบ้านย่อมไม่ใช่วิธีการที่ดี และยากที่จะสำเร็จจึงเลือกใช้วิธีการจัดพิมพ์คูปองลดราคาพิเศษมากๆ จำนวนกว่า 1 ล้านชิ้น แล้วจัดส่งผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลหรือ รพ.สต. เพื่อให้เข้าถึงฮีโร่ที่ลืมไม่ได้อย่างทั่วถึง
ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มคนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 หลายคนถูกลดเงินเดือน หรือบางคนต้องถูกให้ออกจากงาน สำหรับคนกลุ่มนี้ประสิทธิ์ อธิบายว่ากลุ่มคนตามชุมชนต่างๆ อย่างชุมชนคลองเตย อาจไม่มีเตาไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหารกันทุกบ้านจึงเลือกบรรจุภัณฑ์ที่นำไปอุ่นในหม้อน้ำเดือดได้ไปแจกจ่ายอาหารให้ประชาชนในชุมชนคลองเตย 8,499 ครัวเรือน “อยากให้ทุกคนได้รับประทานอาหารอุ่นร้อน จึงนำรถ CPF Food Truck ที่ติดตั้งเตาอบขนาดใหญ่ สามารถอุ่นอาหารร้อนได้ครั้งละ 100-120 แพ็คมาให้บริการพี่น้องประชาชนตามชุมชนต่างๆในเขตกรุงเทพมหานคร โดยรถคันนี้มีขนาดเล็กและแทรกตัวเข้าไปมอบอาหารตามชุมชนต่างๆ มาแล้วถึง 30 ครั้ง
”ขณะเดียวกัน ในฐานะภาคธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบให้สินค้ามีวางจำหน่ายตามปกติสายการผลิตต้องไม่ให้สะดุด จึงยกระดับมาตรการต่างๆ ภายในโรงงานให้อยู่ในระดับสูงสุด เพื่อให้ความปลอดภัยและป้องกันการติดเชื้อแก่พนักงาน ตลอดจนวางระบบโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมตลอดซัพพลายเชน ทำให้สามารถผลิตสินค้าออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สร้างความกังวลใดๆแก่ประชาชน แม้จะอยู่ในสถานการณ์วิกฤติทุกๆ โครงการล้วนใส่ใจในรายละเอียดและคิดเพื่อประชาชนทุกกลุ่มมาอย่างดี ณ วันนี้ ซีพีเอฟ จึงกลายเป็นอีกแบรนด์เพื่อสังคมที่หลายคนกล่าวถึง พร้อมๆ กับความเชื่อมั่นในคุณภาพอาหารปลอดภัยที่องค์กรนี้ยืนหยัดเป็น “ครัวของโลก” ที่นานาประเทศยอมรับ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 16 มิถุนายน 2563