นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ปริมาณ "ขยะพลาสติก" ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของโลกแทบทุกภาคส่วน ซีพีเอฟเองตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็น 1 ใน 3 เสาหลักความยั่งยืน อันประกอบด้วย อาหารมั่นคง-สังคมพึ่งตน-ดินน้ำป่าคงอยู่ ทำให้บริษัทมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมรักษ์โลก ตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ตลอดจนรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เป็นสำคัญ
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดี นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยที่ผ่านมาซีพีเอฟมีการนำบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกชนิด Poly Lactic Acid (PLA) ซึ่งเป็นถาดอาหารชีวภาพที่ผลิตจากพืชและย่อยสลายได้ มาใช้เป็นถาดบรรจุสินค้าอาหารสด ทั้งเนื้อไก่สด และเนื้อหมูสด เป็นรายแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งการใช้พลาสติกชนิดที่วัตถุดิบสามารถหมุนเวียนกลับมาใหม่ได้แทนพลาสติกชนิด PET ที่ผลิตจากวัตถุดิบจากน้ำมันปิโตรเลียมจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 83% เทียบได้กับการปิดไฟ 12 ล้านดวงเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 10 ปี (2550-2560) บริษัทสามารถลดการใช้พลาสติกและกระดาษรวม มากกว่า 2,315 ตัน หรือเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 131,361 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าทีเดียว
ด้าน “เชสเตอร์” หนึ่งในบริษัทในเครือซีพีเอฟ นับเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายเดียวที่ให้บริการเสริฟอาหารให้แก่ลูกค้าภายในร้าน โดยใช้ จานเมลามีน -ช้อน-ส้อม-มีดสแตนเลส รวมถึงแก้วน้ำที่เป็นแก้วจริงไม่ใช่พลาสติก มาตลอดระยะเวลา 30 ปีที่เปิดดำเนินการ และใช้ระบบล้างทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานปลอดภัย ตอกย้ำให้เห็นความตระหนักขององค์กรในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ เชสเตอร์จะลดการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียว (Single used plastic) ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงศึกษาแนวทางจัดการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมต่อไป
Tag:
#ForestProtect