เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่“
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
สถานการณ์ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไทยปี 2557 และแนวโน้มปี 2558
22 ธ.ค. 2557
สถานการณ์ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไทยปี 2557 และแนวโน้มปี 2558

สถานการณ์ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไทยปี 2557 และแนวโน้มปี 2558


โดย ดร. พจน์  อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย

 

ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำในลำดับต้นของโลกโดยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าในหมวดสินค้ากุ้ง หมึก ปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ทูน่ามากกว่าสามแสนล้านบาท ถือว่าเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศในอันต้นของประเทศ ปัจจุบันการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำมีปัญหาในระดับวิกฤติที่ต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขโดยเร่งด่วน  เห็นได้จากสินค้ากุ้งซึ่งไทยเคยส่งออกและมีรายได้ 107,277 ล้านบาท แต่มูลค่าการส่งออกที่สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งคาดการณ์ไว้ตลอดทั้งปี 2557 จะเหลือเพียง 60,4800 ล้านบาทเท่านั้น

ดร.พจน์  อร่ามวัฒนานนท์  นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย  ประธานสมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย ประธานคณะกรรมการประมงและแรงงาน กรรมการและรองเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  กล่าวถึงสาเหตุหลักจนเข้าขั้นวิกฤติในปีนี้คือ


1. ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบกุ้ง เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากโรคระบาด EMS
2.  วัตถุดิบที่จับจากทะเลมีปริมาณจำกัด โดยมีสาเหตุจากทรัพยากรประมงเริ่มลดน้อยลง และสหภาพยุโรปเข้มงวดในเรื่องการบังคับมาตรการ IUU อย่างจริงจัง ทำให้วัตถุดิบที่จับจากทะเลทั้งในน่านน้ำและนอกน่านน้ำขาดแคลน
3. สหภาพยุโรปยกเลิกการช่วยเหลือประเทศไทย โดยเริ่มตัดสิทธิ GSP สำหรับสินค้าประมงในหมวด 0306 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นมา ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนรวมถึงประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอื่นยังคงได้สิทธิพิเศษทางภาษี ส่งผลให้ศักยภาพการแข่งขันของไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัดในตลาดสหภาพยุโรป 
4. ค่าเงินในประเทศคู่ค้าหลักทั้งสหภาพยุโรป และญี่ปุ่น  อ่อนค่าลง ทำให้กระทบต่อราคาซื้อขายสินค้าสัตว์น้ำ

 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของไทยจะค่อยเริ่มดีขึ้นเนื่องจาก


1. การแก้ไขปัญหาโรคระบาด EMS โดยกรมประมงเห็นผลอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของการปรับปรุงสภาพบ่อเลี้ยง การปรับปรุงลูกพันธุ์กุ้งให้แข็งแรง มีการผลิตน้ำชีวภาพเพื่อใช้ในการเพาะเลี้ยง นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ประกอบกับการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติงบพิเศษจำนวน 200 ล้านบาทให้กรมประมงทันทีเมื่อได้รับทรบปัญหา ทำให้

กรมประมงสามารถจัดหาพ่อแม่พันธุ์กุ้งนำเข้ามาในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อผลิตลูกพันธุ์กุ้งคุณภาพแจกจ่ายเกษตรกร  จากนั้น พณฯ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี  หม่อมราชวงษ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี  ร่วมด้วยพลเอกฉัตรชัย สาริกายะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญในภาคเศรษฐกิจได้สนับสนุนแนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  (กรมประมง) สามารถแก้ไขปัญหากุ้งได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ  และโดยความร่วมมือของบริษัทเอกชนผู้ผลิตและเพาะเลี้ยงกุ้งรายใหญ่คือ ซีพีเอฟ ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในเรื่องของวิชาการเพื่อปรับปรุงพันธุ์กุ้งให้เหมาะกับสภาพการเลี้ยงของเกษตรกรในประเทศ เกิดลูกพันธุ์ที่แข็งแรง เห็นได้ชัดว่าอัตราการรอดจากการเลี้ยงสูงขึ้นโดยอ้างอิงจากสถิติเดือนสิงหาคมของกรมประมงที่มีวัตถุดิบกุ้งจากการจับออกสู่ตลาดมาก  และเป็นจุดที่ทำให้เกษตรกรหันมาสนใจและมั่นใจที่จะลงกุ้ง คาดว่าปี 2558 เกษตรกรจะเพิ่มการเลี้ยงกุ้งขึ้น และอัตราการรอดเพิ่มขึ้น สมาคมฯ จึงคาดว่าผลผลิตปี 2558 จะมีปริมาณไม่น้อยกว่า 300,000 ตัน


2. ปัญหาแรงงาน สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และสมาพันธ์ผู้ผลิตสินค้าประมงไทย ซึ่งเกิดขึ้นจาก 8 สมาคมฯ ที่ได้ร่วมมือกันและมีความตั้งใจในการที่จะแก้ไขปัญหาแรงงาน โดยเริ่มตั้งแต่การที่ คสช. ได้เข้ามามีบทบาทเต็มที่ในการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดการแรงงานที่ผิดกฎหมายให้เข้าสู่ระบบ รวมทั้งการมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาด้านการจัดลำดับความน่าเชื่อถือแรงงานประเทศไทย (Trips Report) ของสหรัฐฯ  และจากการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น ร่วมกับหน่วยงานของเอกชน ได้มีการทำรายงานและแผนการแก้ไขส่งไปยังสหรัฐฯ คาดว่าสหรัฐฯ จะถอดประเทศไทยออกจากบัญชีรายชื่อได้ในปี 2558
อีกทั้ง คู่ค้าสหรัฐฯ ยังคงให้ความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำของไทย โดยสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ได้มีการจัดทำ Road Map กับกลุ่มผู้นำเข้าสินค้าประมงในสหรัฐฯ (NFI : National Fisheries Institute) ซื้อสินค้ากับผู้ผลิตไทยที่มีการใช้แรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย


3. การแก้ไขปัญหา IUU (Illegal Unreported and Unregulated fishing) และปัญหาแรงงานในเรือประมง ตามที่สหภาพยุโรปกดดันประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้ผลักดันเต็มที่ที่จะแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง โดยขณะนี้ได้ผ่าน พรบ. การประมง เข้าไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่า สภาฯ จะผ่านกฎหมายออกมาในเดือนนี้ พรบ. การประมงฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ทันสมัยและมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหา IUU ได้ คาดว่าสถานการณ์ด้าน IUU จะผ่อนคลายได้ในช่วงไตรมาสสองของปี 2558

 อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกก็ได้มีการปรับตัวโดยการผลิตสินค้าแปรรูปมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งพัฒนาด้านการตลาด เนื่องจากโอกาสและความต้องการของผู้บริโภคสินค้าประมงในตลาดรอง เช่น รัสเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมทั้งจีน ยังคงต้องการสินค้าสัตว์น้ำจากไทย

ทั้งนี้ สมาคมฯ ต้องขอขอบคุณ พณฯ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี  หม่อมราชวงษ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและข้าราชการประจำทั้งกระทรวงพาณิชย์ (ท่านพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ)  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กรมศุลกากร (คุณสมชัย สัจจพงษ์) ที่เป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากมาตรการทางการค้าและไม่ใช่การค้า ให้กับอุตสาหกรรมการส่งออกสินค้าสัตว์ของไทย ดร. พจน์ กล่าวในที่สุด

 

อ้างอิง สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย

 

กิจกรรมอื่น ๆ
เนื้อแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้าย เพียงรู้และเข้าใจ บริโภคอย่างปลอดภัย
31 มี.ค. 2564
เนื้อแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้าย เพียงรู้และเข้าใจ บริโภคอย่างปลอดภัย
กรมปศุสัตว์ย้ำเนื้อสัตว์ปลอดภัย ปลอดโควิด แนะเลือกซื้อแหล่งมาตรฐาน สังเกตสัญลักษณ์ "ปศุสัตว์ OK" เน้นทานอาหารปรุงสุกเท่านั้น
09 ก.พ. 2564
กรมปศุสัตว์ย้ำเนื้อสัตว์ปลอดภัย ปลอดโควิด แนะเลือกซื้อแหล่งมาตรฐาน สังเกตสัญลักษณ์ "ปศุสัตว์ OK" เน้นทานอาหารปรุงสุกเท่านั้น
เนื้อสัตว์ปรุงสุกทานได้ปลอดภัย ย้ำ!! อาหารไม่ใช่แหล่งแพร่โควิด-19
29 ม.ค. 2564
เนื้อสัตว์ปรุงสุกทานได้ปลอดภัย ย้ำ!! อาหารไม่ใช่แหล่งแพร่โควิด-19
ย้ำสุกรในไทยไม่เคยพบไวรัส G4 หรือไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
14 ม.ค. 2564
ย้ำสุกรในไทยไม่เคยพบไวรัส G4 หรือไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x