ข้าราชการ เป็นอาชีพในฝันของหลายคน ด้วยความมั่นคงและสวัสดิการที่ดีทั้งของตนเองและครอบครัว หากแต่ก็มีข้อจำกัด ที่รายได้ซึ่งอาจไม่สูงมากจึงมองหาอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง "วิชัยอนันต์ เชื้อบำรุง" คือหนึ่งในนั้น เพราะหลังจากรับราชการ มาเกือบ 10 ปี เขาพบว่าตนเองไม่มีเงินเก็บหอมรอมริบอย่างที่ตั้งใจ เมื่อมีโอกาสได้ไปเยี่ยม พี่ชายที่จังหวัดระยอง จึงได้เห็นความสำเร็จ ในอาชีพที่พี่กำลังทำอยู่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเกษตรกร 5,000 ราย ในโครงการในโครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรายย่อย หรือคอนแทรคฟาร์ม ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ วิชัยอนันต์บอกว่า แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่เข้าใจระบบนี้แต่ ก็รู้ สึกสนใจ เพราะพี่ชายมีรายได้ ที่ดีจากการเลี้ยงหมูขุน และการเลี้ยงก็ไม่ได้ยุ่งยาก เขาจึงลงมือค้นหาข้อมูล ดูความเป็นไปได้ และศึกษา ข้อสัญญาอย่างละเอียด พบว่าสัญญามีความเป็นธรรม มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนโดยบริษัทเป็นผู้ลงทุนด้านวัตถุดิบการเลี้ยง ทั้งพันธุ์หมู อาหาร วัคซีน ส่งผู้เชี่ยวชาญ มาดูแลให้คำปรึกษา และยังเป็นผู้แนะนำสถาบันการเงินให้ ซึ่งถือเป็นการให้ความช่วยเหลือทางอ้อมจากชื่อเสียงของบริษัท ทำให้เกษตรกรสามารถกู้เงินมาดำเนินโครงการได้ ส่วนเกษตรกรลงทุนด้านโรงเรือนและอุปกรณ์ แรงงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ และการดูแลเลี้ยงหมูให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์และมาตรฐานที่บริษัทกำหนด เพื่อให้ผลผลิตหมูที่ได้อยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเลี้ยงในฟาร์มของบริษัทหรือหมูที่เกษตรกรเป็นผู้เลี้ยงก็ตาม

"เมื่อทำความเข้าใจกับระบบแล้ว ผมตัดสินใจตกลงเลี้ยงหมูกับบริษัททันที โดยบริษัทคอยช่วยเหลือตั้งแต่การหาแหล่งเงินทุน ที่เหมาะสม การให้ความรู้เทคโนโลยีในการเลี้ยงหมู และที่สำคัญคือการประกันความเสี่ยง ด้านการตลาดด้วยการรับซื้อหมูคืนทั้งหมด เรื่องตลาดเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ผม ตัดสินใจร่วมโครงการ เพราะถึงแม้จะเลี้ยงหมูได้ดีมากแค่ไหนถ้าไม่มีตลาดรองรับก็จบ"วิชัยอนันต์ บอกถึงจุดเริ่มต้นของ "วิชัยอนันต์ฟาร์ม" ตำบลสองสลึง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เลี้ยงหมูใน โรงเรือนเปิด ความจุหมูขุน 500 ตัว

 เขาบอกว่าข้อดีอีกประการหนึ่ง ในการร่วมโครงการกับบริษัทคือ การที่บริษัทมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ และปรับปรุงคุณภาพการเลี้ยงให้ดีขึ้นตลอดเวลา เพื่อให้เกษตรกรมีประสิทธิภาพการผลิตที่ดีและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ เทคโนโลยีหนึ่งที่ช่วยในเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด คือ โรงเรือนปิดแบบ ปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำหรือที่เรียกว่า ระบบอีแวป เรียกว่าช่วยยกระดับการเลี้ยงหมูให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

 "ผมเลี้ยงหมูเล้าเปิดมากว่า 10 ปี จนเมื่อปี 2546 บริษัทได้นำโรงเรือนอีแวปที่ได้ทดลองแล้วว่าทำให้การเลี้ยงหมูมีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มาแนะนำ

ซึ่งตัวเลขเปรียบเทียบกับการเลี้ยงแบบเล้าเปิดแตกต่างอย่างชัดเจนจึงตัดสินใจเปลี่ยนโรงเรือนจากแบบเปิดมาเป็นระบบอีแวปทันที พร้อมขยายเล้าเพิ่มอีก 1 หลัง และสร้าง ไบโอแก๊สอีก 1 บ่อ เพื่อผลิตก๊าซชีวภาพแปลงเป็นไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ม ใช้เงินลงทุนทั้งหมดราวๆ 1.5 ล้านบาท ซึ่งผลการเลี้ยงก็ดีมากอย่างที่คิดไว้จริงๆ แถมอีแวปยังช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก" วิชัยอนันต์ กล่าว

วิชัยอนันต์ อธิบายว่าเขาเก็บตัวเลขเปรียบเทียบก่อนใช้ไบโอแก๊สกับหลังใช้พบว่า ก่อนใช้ระบบที่ฟาร์มต้องจ่ายค่าไฟเดือนละประมาณ 3-4 หมื่นบาท หลังจากเดินระบบได้เต็มที่เขาเสียเงินค่าไฟเพียง 2-3 พันบาทต่อเดือน แถมยังช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและแมลงวันที่

          อาจรบกวนชุมชนได้อีกด้วยเมื่อการเลี้ยงเป็นไปอย่างมีระบบ ประสิทธิภาพการผลิตก็สูงขึ้นตามไปด้วย ในปี 2554 เขาจึงขยายการเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง และในปี 2556 สร้างโรงเรือนเพิ่มอีก 3 หลัง ปัจจุบันฟาร์มของเขามีโรงเรือนเลี้ยงหมูขุนมาตรฐานรวม 7 หลัง ความจุหมู 5,000 ตัว สร้างรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 5 ล้านกว่าบาท เมื่อหักเงินที่ต้องจ่ายคืนเงินกู้กับสถาบันการเงินจะเหลือรายได้กว่า 2 ล้านบาทต่อปี

          "ปัจจุบันการเลี้ยงหมูง่ายขึ้น หลังจาก เปลี่ยนมาใช้ระบบให้อาหารอัตโนมัติจากที่ได้ไปดูงานที่ฟาร์มมาศผลของเพื่อนเกษตรกรคอนแทรคฟาร์มเหมือนกัน ซึ่งเขาคิดสร้างระบบเองทำให้มีราคาถูกและใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจากเมื่อก่อนที่ต้องเสียทั้งแรงงานและเวลาไปกับการเดินให้อาหารหมูตอนนี้เพียงแค่ควบคุมเครื่องให้อาหาร จากนั้น ก็มีเวลาเดินเช็คสุขภาพหมู พอเห็นหมูเริ่มไม่กินอาหารหรือซึมๆก็แยกออกมาดูแลเป็นพิเศษให้วิตามินละลายน้ำลดความเครียด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้หมูแข็งแรงขึ้น ทำให้ได้หมูคุณภาพดีออกจากฟาร์ม" วิชัยอนันต์ บอก

          วิชัยอนันต์ พูดความในใจใน ตอนท้ายว่า การร่วมโครงการคอนแทรคฟาร์มกับ ซีพีเอฟ ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทคอยดูแลเอาใจใส่ เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่คิดที่เดินเคียงข้างกันมาตลอด ทำให้การเลี้ยงหมูเติบโตมีรายได้ที่มั่นคง มีครอบครัวที่อบอุ่นเพราะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า มีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน และอนาคตต่อจากนี้เขาคิดว่าอาชีพเลี้ยงหมูจะกลายเป็นอาชีพหลักที่ยั่งยืนหลังจากเกษียณอายุราชการในอีก 8 ปีข้างหน้า ได้อย่างแน่นอน

          โครงการคอนแทรคฟาร์ม ทำให้มีรายได้ที่มั่นคง มีครอบครัวที่อบอุ่นเพราะได้อยู่กันอย่างพร้อมหน้า และซีพีเอฟยังมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ เพื่อสนับสนุนให้การผลิตมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เรียกว่ามีบริษัทเป็นเพื่อนคู่คิดตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา

cr . มติชนสุดสัปดาห์