![ซีพีเอฟเดินหน้านโยบายบริหารจัดการน้ำต่อเนื่อง เพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซีพีเอฟเดินหน้านโยบายบริหารจัดการน้ำต่อเนื่อง เพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน](/storage/news/rcibd6huxfu0b60tna3vfrkwmccda2766nqyxmpw.jpg)
![](https://www.cpfworldwide.com/images/media_center/media_white.png)
ซีพีเอฟ มุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี ย้ำเดินหน้าให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำผ่านการใช้น้ำอย่างคุ้มค่าสูงสุดและหาแนวทางเพิ่มการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และกระบวนการผลิต
นายวีรชัย รัตนบานชื่น ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจไก่เนื้อ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่าวิกฤตทรัพยากรน้ำที่โลกกำลังเผชิญอยู่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บางปีแล้งจัดบางปีน้ำท่วมรุนแรง ส่งผลถึงการดำเนินชีวิตของผู้คน บริษัทตระหนักดีถึงความสำคัญดังกล่าว และในฐานะที่เป็นผู้ผลิตเนื้อไก่ปลอดภัย ซึ่งมีขั้นตอนของโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่จะเกี่ยวข้องกับการใช้น้ำภายในโรงงานค่อนข้างมาก จึงมีนโยบายให้โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ทุกแห่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำอย่างจริงจัง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเนื่องจากกระบวนการผลิต โดยนำหลัก 4Rs ได้แก่ การลด(Reduce) การใช้ซ้ำ(Reuse) การนำกลับมาใช้ใหม่(Recycle) และการฟื้นฟูหรือหาทางเลือกใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเดิม(Replenish) มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน ตลอดจนมีการบริหารเชิงบูรณาการทั้งในด้านน้ำ พลังงาน อากาศ และของเสีย
ขณะเดียวกันซีพีเอฟยังนำน้ำที่ผ่านระบบบำบัดซึ่งมีคุณภาพตามกฎหมายที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดกลับมาใช้ในส่วนอื่นๆ นอกกระบวนการผลิตในโรงงาน เช่น รดต้นไม้และสนามหญ้า ใช้ทำความสะอาดพื้นบริเวณรอบโรงงาน อาทิ พื้นถนน ลานจอดรถ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์น้ำตามแนวทางการใช้ซ้ำ ลดการนำน้ำดิบจากแหล่งธรรมชาติมาใช้ รวมถึงศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆในการบำบัดน้ำที่ช่วยให้โรงงานสามารถนำน้ำหลังบำบัดกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตได้อีก ตลอดจนแบ่งปันน้ำหลังการบำบัดแล้วให้แก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวและเกษตรกรผู้ปลูกพืชผักในชุมชนรอบข้างโรงงานอีกด้วย รวมถึง หากเกิดภาวะภัยแล้ง บริษัทจะมอบน้ำดิบที่โรงงานผลิตได้ให้แก่ชุมชนอีกทางหนึ่ง เช่นที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา ได้สนับสนุนงบประมาณในการติดตั้งท่อประปาแก่ชุมชนหมู่ที่ 2 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างยั่งยืน
“โรงงานจะนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดแล้ว มาผ่านกระบวนการกรองด้วยระบบ RO (Reverse Osmosis System) เพื่อเพิ่มคุณภาพของน้ำ และนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตประกอบการผลิตและสำนักงาน อาทิ ใช้ในหม้อต้มไอน้ำ ใช้เป็นน้ำหล่อเย็นเครื่องจักร ใช้รดน้ำต้นไม้ในโรงงาน รวมถึงใช้เป็นน้ำล้างพื้นหรือล้างภาชนะที่ไม่ได้สัมผัสอาหาร เป็นต้น แนวทางนี้มีส่วนช่วยให้แต่ละโรงงานสามารถลดการนำน้ำดิบจากข้างนอกมาใช้ได้ระดับหนึ่ง และยังพยายามที่จะหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มการนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ให้มากที่สุด” นายวีรชัยกล่าว
นอกจากนี้โรงงานแปรรูปอาหารของซีพีเอฟยังมีการบูรณาการการจัดการน้ำร่วมกับการบริหารจัดการพลังงานเข้าด้วยกัน โดยพัฒนาโครงการ Waste Water Biogas Capture and Utilization ขึ้น เป็นการนำน้ำที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการแปรสภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียจากที่เป็นระบบบ่อหมักไร้อากาศแบบเปิด ให้เป็นระบบบ่อหมักไร้อากาศแบบปิด นอกจากจะช่วยบำบัดน้ำเสียแล้ว โรงงานยังได้ก๊าซมีเทนที่เกิดจากกระบวนการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเตา และพลังงาน LPG ของหม้อไอน้ำ (Steam Boiler) อีกด้วย
สำหรับเครื่องมือการประเมินและบริหารจัดการน้ำความเสี่ยงด้านน้ำนั้น บริษัทได้นำเครื่องมือที่เป็นสากลมาใช้ อาทิ เครื่องมือของ World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการขาดน้ำสำหรับการผลิตและช่วยลดผลกระทบต่อชุมชน รวมถึงมีมาตรการเตรียมความพร้อมตั้งแต่การหาแหล่งน้ำสำรองที่เชื่อถือได้ การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในทุกขั้นตอนให้ดียิ่งขึ้น การวางแผนการใช้น้ำให้สอดคล้องกับแผนการผลิต และจัดทำแผนฉุกเฉินหากเกิดภาวะขาดแคลนน้ำเพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงักและไม่กระทบต่อชุมชนรอบข้าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน.
![สจล. – ซีพีเอฟ บูรณาการความร่วมมือพัฒนาคนรุ่นใหม่ สร้างนวัตกรรมรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหาร](https://www.cpfworldwide.com/storage/news/KMTILxCPF Thumb_1719580288.jpg)
Tag:
#STEM