26 พฤศจิกายน 2562 -- บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนดีเด่น (Highly Commended in Sustainability Awards) และได้รับคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในงาน SET Awards 2019 ตอกย้ำการกำกับดูแลกิจการที่ดีคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” และรางวัลด้านความยั่งยืนดีเด่น Highly Commended in Sustainability อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทฯด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก คือ “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่า คงอยู่” และเป็นการตอกย้ำแนวทางการบริหารจัดการและกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน 3 ประการ ได้แก่ Value Creation โดยให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยมุ่งเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการควบคู่ไปกับรสชาติที่ดี และสร้างนวัตกรรมอาหารใหม่ๆ
Digital Transformation คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานในระบบปฏิบัติงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ การผลิตอาหารสำเร็จรูป ไปจนถึงการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ตลอดจนการบริหารงานด้านบัญชีและการเงิน ทรัพยากรบุคคล เพื่อให้สามารถบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้าย Driving Sustainability ด้วยการขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืน ซึ่งให้ความสำคัญกับการจัดหาอย่างยั่งยืน การบรรเทาผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดพลาสติก และการลดการสูญเสียของอาหารและขยะอาหาร (Food Loss and Food Waste) ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมกับประชาคมโลกสอดคล้องกับข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals : UN SDGs)
“การเติบโตอย่างยั่งยืน คือ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ซีพีเอฟ ได้วางกลยุทธ์หลักเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการในอนาคตภายใต้กลยุทธ์ Value Creation Digital Transformation และ Driving Sustainability เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม การพัฒนาสังคม และการสร้างธรรมาภิบาลในการกระบวนการธุรกิจ สู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืนร่วมไปกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย” นายประสิทธิ์ กล่าวและเสริมว่า บริษัทฯมุ่งมั่นและมีแนวปฎิบัติด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานและข้อกำหนดสากลชั้นนำ เพื่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่มีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง.
Tag:
#FloodRelief