บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำผู้นำครัวโลกยั่งยืน ผนึกพลังองค์กรส่งมอบโภชนาการที่ดีสู่สังคมไทย ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่คนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ลดภาวะ ทุพโภชนาการ ด้วยเล็งเห็นว่า ความมั่นคงด้านอาหาร เป็นนโยบายที่ทุกประเทศให้ความสำคัญเพราะอาหารเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุดในการดำรงชีวิต สังคมใดที่แก้ปัญหาความหิวโหยไม่สำเร็จ สิ่งนี้จะเป็นภัยคุกคามที่ กัดกร่อนความมั่นคงและนำไปสู่ความไม่สงบสุข ดังนั้น ซีพีเอฟจึงเดินหน้าโครงการเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่คนไทยมากมาย ล่าสุด ได้ลงพื้นที่ จังหวัดอุดรธานี เพื่อส่งมอบ "โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" และ มอบเบี้ยยังชีพ อาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่คนชราผ่าน “กองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย” ปิดท้ายด้วยการมอบผ้าห่ม “โครงการซีพีเอฟ เคียงข้างคนไทย ช่วยภัยหนาว” ต่อเนื่องปีที่ 6
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ครบวงจร ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งมอบอาหารที่มีคุณค่า คุณภาพ และ ความปลอดภัยสู่คนไทย ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ด้วยเชื่อมั่นว่าเมื่อประชาชนได้รับโภชนาการที่ดี ก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง มีพลังในการนำประเทศสู่ความเข้มแข็ง ดังนั้นซีพีเอฟจึงส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่คนไทยผ่านโครงการเพื่อสังคมที่หลากหลาย อาทิ โครงการ ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต และโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่จับมือกับ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ และเหล่าพนักงานนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในการผลิตอาหารปลอดภัยถ่ายทอดสู่กลุ่มเยาวชนทั่วประเทศ เพื่อลดภาวะทุพโภชนาการ และสร้างแหล่งเรียนรู้เพื่อการเลี้ยงชีพในอนาคต
“การลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานีครั้งนี้ ซีพีเอฟร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทฯ พร้อมเหล่าพนักงานของบริษัทฯ ส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งดำเนินการมาเป็นปีที่ 26 นับตั้งแต่ปี 2532 ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่เยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ ในโอกาสเดียวกันนี้ได้มอบเบี้ยยังชีพ อาหาร และเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้สูงวัย ในโครงการ “กองทุน ซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย” ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ตามนโยบายประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงวัยที่เคยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ได้มีความสุขในบั้นปลาย และด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงจึงถือโอกาสสำคัญนี้ในการนำผ้าห่มมาช่วยคลายหนาวให้กับนักเรียนและผู้สูงวัยในพื้นที่” นายอดิเรก กล่าว
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ได้ดำเนินการมากว่า 26 ปี สำหรับในปี 2559 มีการส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เพิ่มอีก 50 โรงเรียน รวมเป็น 602 โรงเรียนทั่วประเทศ สนับสนุนงบประมาณไปแล้ว 82 ล้านบาท ส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 120,000 คน มีสุขภาพอนามัยที่ดี เติบโตสมวัย และมีครูกว่า 5,000 คน ตลอดจนชุมชน 900 แห่งทั่วไทย ได้รับประโยชน์ โดยซีพีเอฟได้ส่งมอบเทคโนโลยีอันทันสมัยในส่วนของโรงเรือนและอุปกรณ์ รวมถึงมอบพันธุ์ไก่ไข่ ให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่สดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 มื้อ ได้เรียนรู้การผลิตอาหารปลอดภัยด้วยตนเอง แล้วนำผลผลิตไข่สดที่ได้มาแบ่งปันบริโภคกันภายในโรงเรียน นอกจากนั้นเยาวชนเหล่านี้ ยังสามารถนำองค์ความรู้ไปพัฒนาและต่อยอดเลี้ยงชีพได้ในอนาคต ในครั้งนี้เป็นการส่งมอบโครงการฯ แก่โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม อำเภอ ประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี
นอกจากการส่งเสริมการเข้าถึงอาหารคุณภาพใน “กลุ่มเยาวชน” ที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตแล้ว “กลุ่มผู้สูงวัย” เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ซีพีเอฟได้เข้าไปส่งเสริมการบริโภคอาหารคุณภาพ ผ่านโครงการ “กองทุน ซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย” โดยบริษัทได้เข้าไปดูแลผู้สูงวัยที่มีฐานะยากจน ถูกลูกหลานทอดทิ้ง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่มีผู้อุปการะดูแล ซึ่งแต่ละเดือนจะมีผู้บริหารและพนักงานซีพีเอฟจิตอาสาผลัดเปลี่ยนกันลงพื้นที่ไปเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค และเบี้ยยังชีพ ให้กับผู้สูงวัยที่เข้าร่วมโครงการกว่า 716 คน ทั่วประเทศ ด้วยงบประมาณ 54 ล้านบาท
กิจกรรมสุดท้ายสำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ คือพิธีมอบผ้าห่ม “โครงการซีพีเอฟ เคียงข้างคนไทย ช่วยภัยหนาว” ปีที่ 6 ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้ “โครงการกลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดย ประธานธนินท์ เจียรวนนท์ เคียงข้างคนไทย ช่วยภัยหนาว” ที่ดำเนินการตั้งแต่ปี 2553 ด้วยการส่งมอบความอบอุ่นให้พี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 นี้ ซีพีเอฟได้จัดเตรียมผ้าห่ม 6,600 ผืน มูลค่า 1,040,000 บาท เดินสายช่วยผู้ประสบภัยหนาวอย่างทั่วถึง ทำให้ยอดรวมการสนับสนุนผ้าห่มตลอด 6 ปีที่ผ่านมารวมทั้งสิ้นกว่า 200,000 ผืน ด้วยงบประมาณ 45.24 ล้านบาท
ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน คือ การดำเนินธุรกิจจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท โดยขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านยุทธศาสตร์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน ดินน้ำป่าคงอยู่” เพื่อสร้างเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมเติบโตไปด้วยกัน./
Tag:
#RestoretheOcean