ยายสุนี วงษ์นุช 1 ใน 7 ผู้สูงวัยที่เข้าร่วม โครงการ “กองทุนซีพีเอฟ คืนสุขผู้สูงวัย” ในพื้นที่ อ. ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า “ยายมีลูกอยู่ 7 คน ปากกัดตีนถีบเลี้ยงดูลูกทั้ง 7 มาด้วยความรัก แต่พอโตขึ้นเขาก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวแล้วไม่เคยกลับมาเยี่ยมยายอีกเลย ตอนนี้ร่างกายยายก็เดินไม่ค่อยจะไหวแล้วอายุ 78 ปี มีโรคประจำตัวทั้งเบาหวานและโรคหัวใจ ตาก็มองเห็นเลือนลาง มือสั่นอยู่ตลอดทำให้หยิบจับอะไรไม่ค่อยได้ แต่ยังโชคดีที่มีตาที่อยู่กินกันมากว่า 20 ปี คอยดูแล แต่ตอนนี้ตาป่วยเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องผ่าเส้นเลือดหัวใจถึง 3 เส้น จึงหายใจไม่ค่อยออกใช้เครื่องช่วยหายใจ ถึงแม้ว่าจะไม่มีลูกสักคนมาดูแล ตาจะคอยให้กำลังใจ ดูแลอาบน้ำให้อยู่ตลอด ตาจะเป็นคนเสียสละเดินหาของเก่ามาขาย บางวันก็ได้รับริจาคเศษวัสดุมาจากชาวบ้านที่สงสาร อาศัยอาหารจากพระวัดบัวงามบ้าง หาเองบ้าง กินประทังชีวิตไปแต่ละวัน โชคที่ได้ซีพีเอฟ คอยดูแลและช่วยเหลือในบั้นปลายชีวิต ทำให้ 2 ตายายรู้สึกอุ่นใจ ว่าเราไม่ได้ถูกทอดทิ้ง”
นายประมวล สินธารา ผู้แทนบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ มีนโยบายให้ทุกสายธุรกิจเข้าไปดูแลสังคมและชุมชนโดยรอบ โดยเข้าไปดูแลผู้สูงอายุที่ถูกลูกหลานทอดทิ้ง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โครงการนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันมีผู้สูงอายุเข้าร่วมโครงการ 716 คน ใน 100 ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ ประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ให้แนวทางไว้ว่า การดำเนินธุรกิจจะต้องยึดหลัก 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน คือ จะต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัทเป็นลำดับสุดท้าย การดูแลชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งที่แต่ละโรงงานให้ความสำคัญมาโดยตลอด
สำหรับสายธุรกิจผลิตอาหารสัตว์บกมีผู้สูงวัยที่เข้าร่วมโครงการจาก 12 โรงงานทั่วประเทศจำนวน 36 คน โดยในแต่ละเดือนผู้บริหารและซีพีเอฟจิตอาสาจะไปเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ และถือโอกาสสำรวจสิ่งที่ผู้สูงอายุมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตเพิ่มเติม อาทิ ยายสุนี วงษ์นุช ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีสภาพทรุดโทรม ไม่มีห้องน้ำใช้ ทางโรงงงานผลิตอาหารสัตว์บกท่าเรือเลยนำอุปกรณ์เหลือใช้ อาทิ ไม้ เหล็ก ประตู และสังกะสีมาสร้างห้องน้ำ พร้อมนำเพื่อนพนักงานลงพื้นที่มาช่วยกันคนละไม้คนละมือเพียง 3-4 วัน ก็สามารถสร้างห้องน้ำใหม่ให้คุณยายได้สำเร็จ ช่วยทำให้คุณยายมีสุขอนามัยที่ดีขึ้น ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ซีพีเอฟมุ่งมั่นที่จะตอบแทนคุณแผ่นดิน
นายวิทิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล ได้เน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ควรสงเคราห์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยากไร้ โดยได้ประสานงานกับกิ่งกาชาด องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และภาคเอกชนอย่างซีพีเอฟร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือ โดยปกติเฉพาะผู้สูงอายุจะได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการตามสิทธิอยู่แล้วแต่บางรายที่มีความยากไร้ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และไม่มีผู้ดูแลจะได้รับความ
ช่วยเหลือจากซีพีเอฟซึ่งเป็นบริษัทภาคเอกชนที่มีศักยภาพได้เข้ามาช่วยดูแลผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่โดยรอบสถานประกอบการ ทำให้การช่วยเหลือมีความทั่วถึงต่อเนื่อง ทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้ประสานงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลจำปา ดึงผู้นำชุมชนแสดงเจตนารมณ์ร่วมช่วยเหลือผู้สูงวัยยากไร้ตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว โดยได้สอบถามข้อมูลผู้สูงวัยที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งปกติจะมีการสำรวจข้อมูลพื้นฐานของชาวบ้าน หากพบว่ามีผู้ยากไร้จะรายงานทางอำเภอให้เข้าไปช่วยเหลือทันที เกิดเป็นความร่วมมือกันตั้งแต่นั้นมาและลงพื้นที่สำรวจความต้องการของผู้สูงวัยยากไร้อย่างต่อเนื่อง ในแต่ละเดือนทั้ง ซีพีเอฟ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จะร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสุขภาพแก่ผู้สูงวัย จ่ายยา มอบอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้
ยายสุวรรณ วายุพักต์ อีกหนึ่งผู้สูงสัยที่ร่วมโครงการ กล่าวถึงความรู้สึก “ซีพีเอฟได้เข้ามาดูแลยาย 3 ปีได้แล้ว มาช่วยทุกอย่างทั้งซ่อมบ้าน ดูแลเงินทอง อาหารการกิน ทำให้ยายรู้สึกว่าตนเองโชคดี เขามากันไม่เคยขาดเลย แต่ละเดือนก็จะมากันหลายคน มาพูดคุยถามความเป็นอยู่ ทำให้คนแก่อย่างยายหายเหงาไปได้บ้าง ถ้าไม่มีเขายายก็แย่เหมือนกันนะคนแก่อายุจะ 80 แล้วอยู่ตัวคนเดียว”
นอกจากนี้ในการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ซีพีเอฟจะเชิญภาคีเครือข่ายท้องถิ่น อาทิ กิ่งกาชาดและสาธารณสุขลงพื้นที่เพื่อตรวจเช็คสุขภาพผู้สูงวัย ร่วมกันวางแผนเพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที คนไข้ส่วนใหญ่ในอำเภอท่าเรือจะมีทั้งคนไข้เรื้อรัง พิการ และผู้ด้อยโอกาส โดยจะมีการจัดลำดับความรุนแรงของโรคและความต้องการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดย ซีพีเอฟจะสนับสนุนด้านการบริโภคอย่างถูกสุขอนามัยของผู้สูงวัย ทั้งข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำดื่ม ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ในโครงการมักป่วยเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ฯลฯ โดยกิ่งกาชาดจังหวัด จะเข้ามาดูแลเรื่องการตรวจสุขภาพ และหากพบผู้สูงวัยรายใดต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนจะประสานไปที่สาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลท่าเรือ ให้รีบเข้ามาช่วยเหลือทันที ทำให้ผู้สูงวัยที่ร่วมโครงการได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างอุ่นใจไร้กังวล./
Tag:
#RestoretheOcean