นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้ก บอร์ด) ว่า เอ้กบอร์ดมีมติให้ใช้มาตรการเพื่อแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำเนื่องจากไข่ล้นตลาด คือ 1) ชดเชยเงินแก่เกษตรกรเพื่อให้ปลดแม่ไก่ยืนกรงไม่เกิน 40 บาท/ตัว 2) ชดเชยเงินแก่ผู้ส่งออก เพื่อรวบรวมไข่ไก่สำหรับส่งออกหรือส่งโรงงานแปรรูป 50 สตางค์/ฟอง ซึ่งมติดังกล่าวจะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เพื่ออนุมัติงบประมาณต่อไป
สำหรับปี 2558 มีผลผลิตไข่ไก่ 41.38 ล้านฟอง/วัน เพิ่มขึ้น 5.88% จากปี 2557 ขณะที่ความต้องการบริโภคต่อวันอยู่ที่ประมาณ 38.38 ล้านฟอง ทำให้มีผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาด 3 ล้านฟอง/วัน และช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ความต้องการบริโภคไข่จะลดลงจากปกติประมาณ 10-20% ส่งผลให้ราคาไข่หน้าฟาร์มปรับตัวต่ำลงเหลือเพียง 2.10 บาท/ฟอง จากราคาต้นทุน 2.93 บาท/ฟอง เกษตรกรจึงขาดทุนฟองละ 0.83 บาท และจำนวนแม่ไก่ยืนกรงขณะนี้มีมากเกินประมาณ 5.3 ล้านตัว จากจำนวนทั้งประเทศ 53 ล้านตัว
นายมาโนช ชูทับทิม ตัวแทนเกษตรกรในเอ้กบอร์ด กล่าวว่า เกษตรกรได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดปัจจุบันให้ทบทวนมติ ครม.ปี 2553 ที่เปิดการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ได้เสรี เนื่องจากเกษตรกรมองว่าการนำเข้าควรมีเพดานกำหนดปริมาณที่เหมาะสม ไม่ทำให้ไข่ไก่ล้นตลาด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯได้รับเรื่องไปดำเนินการแล้ว นอกจากนี้ยังให้เสนอไปยังกรมการค้าภายในเพื่อตรวจสอบว่ามีการทุ่มตลาดไข่ไก่อยู่หรือไม่
นายชัยพร สีถัน ประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคกลาง กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายปีติพงศ์ รมว.กระทรวงเกษตรฯแล้วว่า ปริมาณไข่ล้นตลาดเกิดจากการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่มากเกินความต้องการ ขอให้กระทรวงเกษตรฯช่วยปลดพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่จากระบบ 2 แสนตัว จากปัจจุบันที่มีอยู่ 8 แสนตัว โดยชดเชยให้เกษตรกร 500 บาท/ตัว และห้ามนำเข้าเพิ่มในระยะ 6 เดือน
ราคาที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มคงตกต่ำ ราคาถูก ไม่มีเงินใช้หนี้ อยู่ไปวัน ๆ รอล้มละลาย หลังจากยื่นหนังสือแล้ว เกษตรกรให้เวลา 7 วัน หากรัฐบาลไม่เหลียวแล คงต้องรวบรวมกำลังผู้เลี้ยง ไก่ไข่ทั่วประเทศนำม็อบมาขอความเห็นใจจากรัฐบาล" นายชัยพรกล่าว
cr. ประชาชาติธุรกิจ
ภาพ อินเตอร์เน็ต